วันอาทิตย์ที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รัชกาลที่ 3

 

รัชกาลที่ 3 มีพระนามเดิมว่า “พระองค์เจ้าทับ” เป็นพระราชโอรสของรัชกาลที่ 2 กับเจ้าจอมมารดาเรียม ( กรมสมเด็จพระศรีสุลาลัย ) ประสูติ ณ พระราชวังเดิม เมื่อ วันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2330 พอพระชนมายุ ครบกำหนดโสกันต์ รัชกาลที่ 1 ได้โปรดให้จัดทำ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ต่อมาได้บรรพชาและอุปสมบท ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม แล้วเสด็จจำพรรษา ณ วัดราชสิทธาราม
เมื่อรัชกาลที่ 2 เสด็จขึ้นเสวยราชย์สมบัติแล้ว ในปี พ.ศ. 2356 ได้โปรดสถาปนาให้พระองค์เจ้าชายทับ เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอกรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ทรงกำกับราชการกรมท่า และเมื่อสมเด็จกรมพระราชวังบวร มหาเสนานุรักษ์ ทิวงคตแล้ว ก็ได้สิทธิ์ขาดในการบังคับบัญชา กรมพระตำรวจทำหน้าที่ว่าความฎีกาต่าง ๆ อีกด้วย
ในปี พ.ศ. 2363 ได้เป็นแม่ทัพคุมพล 3,000 คนไปคอยป้องกันพม่าที่จะยกทัพมาทางด่านเจดีย์สามองค์
เป็นเวลาปีเศษ แต่พม่าก็ไม่ยกทัพมา จึงได้เสด็จกลับ พระองค์ได้รับราชการเป็นที่พอพระราชหฤทัยของรัชกาลที่ 2
เป็นอย่างดียิ่ง ในทุก ๆ ด้านและที่สำคัญคือเรื่องการค้าขาย ของกรมพระคลังสินค้าซึ่งทำรายได้ ให้กับประเทศอย่างมาก จนมีพระราชดำรัสล้อเรียกพระองค์ว่า “เจ้าสัว”
ในปี พ.ศ. 2367 ได้เสด็จขึ้นเสวยราชย์สมบัติเป็นรัชกาลที่ 3 แห่งราชวงศ์จักรี ทรงพระนามว่า พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (สมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี ศรีสินทรบรมมหาจักรพรรดิราชาธิบดินทร์ ธรณินทราธิราช รัตนากาศภาศกรวงศ์ องค์ปรมาธิเบศร์ ตรีภูวเนตรวรนายก ดิลกรัตนราชชาติอาชาวศรัย สมุทัยคโรมนต์ สกลจักรวาลาธิเมนทรต์ สุริเยนทราธิบดินทร์ หริหรินทราธาดาธิบดี ศรีสุวิบูลย์ คุณอกณิฐ ฤทธิราเมศวรมหันต์ บรมธรรมิกราชาธิราช เดโชไชย พรหมเทพาดิเทพนฤบดินทร์ ภูมินทรปรมาธิเบศร์ โลกเชฐวิสุทธิ์ รัตนมงกุฏประเทศคตา มหาพุทธางกูร บรมบพิตร พระพุทธเจ้าอยู่หัว) ขณะมีพระชนมายุ 37 พรรษา
ทรงดำรงอยู่ในราชสมบัตินาน 27 ปี ก็เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2394 รวมพระชนมายุ 64 พรรษา
พระองค์ทรงมีพระราชโอรสและพระราชธิดาทั้งสิ้น 51 พระองค์



 พระราชลัญจกรเป็นรูปปราสาท เป็นพระราช สัญลักษณ์ของพระบรมนามาภิไธย ว่า "ทับ" อันหมายถึง ที่อยู่ หรือ เรือน


ขอขอบคุณข้ิอมูลดีๆ 
จาก http://www.sainampeung.ac.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น